การทำเลสิค
เทคนิคการทำเลสิก มีกี่แบบ
เทคนิคการทำเลสิกในปัจจุบันที่ได้รับความนิยม แบ่งออกได้เป็น 4 เทคนิค ได้แก่ PRK, เลสิกใบมีด, เฟมโตเลสิก และเลสิกไร้ใบมีด โดยแต่ละเทคนิคมีข้อดี ข้อเสีย และเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาสายตาแตกต่างกัน ดังนี้
1. PRK (Photorefractive Keratectomy)
PRK (Photorefractive Keratectomy) เป็นการเลสิกที่จะไม่ได้แยกชั้นกระจกตาเหมือนกับเทคนิคอื่นๆ แต่จะเป็นการลอกกระจกผิวตาชั้นนอกออกก่อน และใช้เอ็กไซเมอร์เลเซอร์ (Excimer Laser) ในการปรับความโค้งของกระจกตา เพื่อให้การรับภาพกลับมาเป็นค่าสายตาปกติ และใช้คอนแทคเลนส์ปิดกระจกตาที่ทำการผ่าตัดประมาณ 5-7 วัน เพื่อช่วยลดอาการระคายเคืองตา และช่วยฟื้นฟูกระจกตาหลังจากรับการผ่าตัด
ข้อดีของเทคนิค PRK
สำหรับข้อดีของการทำเลสิกด้วยเทคนิค PRK (Photorefractive Keratectomy) มีดังนี้
ใช้ยาชาแบบหยอดตา
ไม่มีการเย็บแผล
มีโอกาสในการเกิดอาการตาแห้งน้อยกว่าการเลสิกแบบอื่นๆ
ข้อจำกัดของเทคนิค PRK
สำหรับข้อจำกัดของการทำเลสิกด้วยเทคนิค PRK (Photorefractive Keratectomy) มีดังนี้
แก้ปัญหาค่าสายตาผิดปกติได้ค่อนข้างจำกัด เช่น สายตาสั้นไม่เกิน -600 สายตายาวไม่เกิน +500 และสายตาเอียงไม่เกิน -600 เป็นต้น
ใช้เวลาพักฟื้นนานกว่าการทำเลสิกแบบอื่นๆ
มีโอกาสในการเกิดอาการระคายเคืองได้มากกว่า
2. เลสิกใบมีด (Blade Lasik)
เลสิกใบมีด หรือ Blade Lasik เป็นการเลสิกที่จะใช้ใบมีดในการผ่าตัด เพื่อทำการเปิดกระจกตา และใช้เอ็กไซเมอร์เลเซอร์ (Excimer Laser) ในการปรับความโค้งของกระจกตา เพื่อให้การรับภาพกลับมาเป็นค่าสายตาปกติ และปิดกระจกตาเข้าที่เดิม โดยที่ไม่ต้องใช้คอนแทคเลนส์ปิดทับเหมือนกับการเลสิกแบบ PRK
ข้อดีของเทคนิค Blade Lasik
สำหรับข้อดีของการทำเลสิกด้วยเทคนิคเลสิกใบมีด (Blade Lasik) มีดังนี้
ใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นน้อยกว่าการเลสิกแบบอื่นๆ
หลังจากผ่าตัดสามารถกลับมามองเห็นเป็นปกติได้อย่างรวดเร็ว
มีโอกาสที่จะเกิดการระคายเคืองตาในระหว่างผ่าตัด และหลังผ่าตัดน้อย
ข้อจำกัดของเทคนิค Blade Lasik
สำหรับข้อจำกัดของการทำเลสิกด้วยเทคนิคเลสิกใบมีด (Blade Lasik) มีดังนี้
แก้ปัญหาค่าสายตาผิดปกติได้ค่อนข้างจำกัด เช่น สายตาสั้นไม่เกิน -1000 สายตายาวไม่เกิน +500 และสายตาเอียงไม่เกิน -600 เป็นต้น
มีโอกาสที่จะทำให้กระจกตามีแผลได้ง่าย แต่สามารถหายเองได้
มีโอกาสที่จะทำให้มีอาการตาแห้งได้ง่ายกว่าการเลสิกแบบอื่นๆ
3. เฟมโตเลสิก (Femto Lasik)
เฟมโตเลสิก (Femto Lasik) เป็นการเลสิกที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันเป็นอย่างมาก โดยเทคนิคเฟมโตเลสิกจะใช้เฟมโตเซคอนด์เลเซอร์ (Femtosecond Laser) ในการเปิดกระจกตา และใช้เอ็กไซเมอร์เลเซอร์ (Excimer Laser) ในการปรับความโค้งของกระจกตา ซึ่งทำให้เทคนิคนี้ใช้เลเซอร์ในการรักษาเป็นหลัก ส่งผลให้การทำเฟมโตเลสิกมีความแม่นยำ และปลอดภัยมากกว่าการทำเลสิกแบบอื่น ๆ
ข้อดีของเทคนิค Femto Lasik
สำหรับข้อดีของการทำเลสิกด้วยเทคนิคเฟมโตเลสิก (Femto Lasik) มีดังนี้
ใช้ยาชาแบบหยอดตา
ใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นน้อย
มีโอกาสที่จะเกิดการระคายเคืองน้อย
มีความแม่นยำ และมีความปลอดภัยสูง
มีโอกาสที่จะเกิดผลข้างเคียงน้อย
กลับมามองเห็นได้ปกติอย่างรวดเร็ว
ข้อจำกัดของเทคนิค Femto Lasik
สำหรับข้อจำกัดของการทำเลสิกด้วยเทคนิคเฟมโตเลสิก (Femto Lasik) มีดังนี้
มีโอกาสที่จะเกิดแผลบริเวณกระจกตา
มีโอกาสที่จะเกิดอาการตาแห้งได้
ในกรณีที่ได้รับอุบัติเหตุหลังจากผ่าตัด อาจมีโอกาสที่กระจกตาเคลื่อนที่ได้
4. เลสิกแบบไร้ใบมีด (ReLEx Smile)
เลสิกแบบไร้ใบมีด หรือ ReLEx Smile (Refractive Lenticule Extraction – Small incision lenticule extraction) เป็นอีกเทคนิคการเลสิกที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเช่นกัน โดยเทคนิคนี้จะใช้เลเซอร์เพียงตัวเดียว คือ เฟมโตเซคอนด์เลเซอร์ (Femtosecond Laser) เพื่อใช้ในการตัดเนื้อกระจกตาเป็นชิ้น และดึงออกผ่านแผลที่มีขนาดประมาณ 2-4 มิลลิเมตร จึงทำให้การเลสิกด้วยวิธีนี้เป็นวิธีที่รบกวนกระจกตาน้อยมากที่สุด
ข้อดีของเทคนิค ReLEx Smile
สำหรับข้อดีของการทำเลสิกด้วยเทคนิคเลสิกแบบไร้ใบมีด (ReLEx Smile) มีดังนี้
มีความแม่นยำ และมีความปลอดภัยสูง
มีโอกาสที่จะเกิดการระคายเคืองน้อย
มีโอกาสที่จะเกิดอาการตาแห้งน้อยมาก
มีโอกาสที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อน หรือผลข้างเคียงน้อย
ไม่ต้องทำการผ่าตัดแยกชั้นกระจกตาก่อน
ข้อจำกัดของเทคนิค ReLEx Smile
สำหรับข้อจำกัดของการทำเลสิกด้วยเทคนิคเลสิกแบบไร้ใบมีด (ReLEx Smile) มีดังนี้
แพทย์ผู้ผ่าตัดต้องมีประสบการณ์ และมีความชำนาญสูง
ใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นใกล้เคียงกับการเลสิกแบบใช้ใบมีด
แก้ไขได้เฉพาะปัญหาสายตาสั้น และสายตาเอียงเท่านั้น
สรุปการทำเลสิค
การทำเลสิกเป็นวิธีที่สามารถแก้ไขได้ทั้งปัญหาสายตาสั้น สายตายาว และสายตาเอียง ใช้เวลาในการผ่าตัดไม่นาน และใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นน้อย เพราะเป็นวิธีการผ่าตัดที่ใช้อาศัยเลเซอร์ในการรักษาเป็นหลัก ทำให้ทุกคนสามารถกลับมามองเห็นได้ชัดเจนในเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งการมีสายตาที่ดีทำให้ไม่จำเป็นต้องสวมใส่แว่น หรือคอนแทคเลนส์อีกต่อไป ส่งผลให้สามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้ง่ายขึ้น มีบุคลิกภาพที่ดีขึ้น และมีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้นอีกด้วย ดังนั้น หากใครอยากจะเลิกใส่แว่น ใส่คอนแทคเลนส์ หรืออยากมีค่าสายตาปกติเหมือนเดิม การทำเลสิกตาก็ถือว่าเป็นอีกวิธีที่สามารถตอบโจทย์ได้ดีเลยทีเดียว
Top med world เป็นแพลตฟอร์มท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ที่ดีที่สุดที่คัดสรรคลินิกและโรงพยบาลชั้นนำ ที่มีชื่อเสียงในประเทศไทยด้านผ่าตัด เลสิค ศูนย์ผ่าตัดเลสิคชั้นนำในประเทศไทย คลินิกเหล่านี้ได้รับการแนะนำและได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในด้านความเชี่ยวชาญ เทคโนโลยี และการดูแลผู้ป่วย:
LASIK Vision International: เป็นผู้นำในการให้บริการเลสิค มีทีมศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและเทคโนโลยีขั้นสูง
ศูนย์ตาไทย: เป็นที่รู้จักในด้านบริการดูแลดวงตาที่ครอบคลุมและกระบวนการผ่าตัดเลสิคที่ทันสมัย
TRSC International LASIK Center: มีตัวเลือกการผ่าตัดเลสิคที่หลากหลายและแผนการรักษาส่วนบุคคล
โรงพยาบาลตา รัตนิน: โรงพยาบาลตาระดับแนวหน้า มีศูนย์เลสิคเฉพาะทางและให้ความสำคัญกับความพึงพอใจของผู้ป่วย
โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล: ศูนย์การแพทย์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก มีศูนย์ตาเฉพาะทางที่ให้บริการผ่าตัดเลสิค
โรงพยาบาลกรุงเทพ พัทยา: ให้บริการดูแลดวงตาเต็มรูปแบบ รวมถึงเลสิค โดยมีทีมจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
โรงพยาบาลเวชธานี: โรงพยาบาลเอกชนชั้นนำในกรุงเทพฯ มีศูนย์ตาที่ทันสมัยและศัลยแพทย์เลสิคผู้มีประสบการณ์
โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท: ให้บริการดูแลดวงตาและผ่าตัดเลสิคที่ครอบคลุม ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงและวิธีการที่เน้นผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง
หากท่านต้องการทราบข้อมูลทางบริษัท ทอปเมดเวิลด์ ได้นำเสนอ แพคเกจราคา โปรโมชั่นพิเศษ ศัลยกรรมหัตถการทำเลสิคของโรงพยาบาลและคลินิกชั้นนำของประเทศไทยและทั่วโลก โปรดติดต่อเรา